เมนูอาหารแนะนำ ชะอมก็ทำได้หลายอย่างน่ากินทั้งนั้น

วุ้นเส้นผัดชะอม
เมนูนี้ เป็นเมนูที่ไปอ่านเจอมาจากก้นครัว เห็นปุ๊บก็สนใจจะทำตามทันที ด้วยรู้สึกว่าแปลกใหม่ (สำหรับตัวเอง) รวมทั้งเป็นคนที่ชอบกินอาหารประเภทเส้นอยู่แล้ว และที่สำคัญชอบกินชะอมมากด้วย
จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนู ที่รวบรวมเอาของโปรดของผมเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างน่าสนใจเลยครับ

ส่วนประกอบ
- วุ้นเส้น (แช่น้ำให้นิ่ม แล้วตัดให้ได้ความยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร)
- ชะอม
- กุ้ง
- หมูสับ
- ไข่ไก่
วิธีทำ ออกแนวผัดซีอิ๊วครับ ไม่ยากเท่าไร
มาดูกันเลยครับ
ผัดหมูสับให้พอสุก
ใส่กุ้ง ผัดให้สุกขึ้นเล็กน้อย
ตอกไข่ไก่ใส่ลงไป แล้วคนให้กระจาย
จากนั้นใส่วุ้นเส้น และชะอม
ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และน้ำปลาอีกนิดหน่อย
ผัดให้เข้ากัน
 

สรุป .. ทั้งวุ้นเส้นนุ่มนิ่ม กับชะอมหอมๆ ช่างเป็นส่วนผสมที่(ผมคิดว่า)ลงตัว อร่อยถูกใจผมมากๆ
รสชาติคล้ายผัดซีอิ๊ว แต่มีกลิ่นหอมของชะอมแทรกอยู่ด้วยครับ
ดูสีซีดไปหน่อย .. ถ้าต้องการให้สีสวยกว่านี้ ใส่ซีอิ๊วดำเพิ่มนิดหน่อยก็ได้ครับ

แกงหัวปลีผักชะอม
กลับมาเข้าครัวของเราดีกว่า อย่างน้อยก็ทำให้คลายร้อนและผักหลังบ้านหลังโดนน้ำฝนก็แตกยอดอวดโฉมขึ้นแข่งกันทั้งผักทั้งหญ้า โดยเฉพาะใบแมงลัก โหระพา ขึ้นงามเป็นดง เลยนึกอยากแกงผักหอม ๆ ไว้ซดร้อน ๆ ท่ามกลางการมาเยือนของมรสุมและละอองไอฝนให้อุ่นกระเพาะ มีผักหลัก ๆ อย่างหัวปลีอยู่แล้ว 3 หัวเล็ก ๆ กับผักชะอมกำใหญ่ นอกนั้นหาเก็บตามสวนหลังบ้านกับซอกหลืบของตู้เย็น…

 
ใบแมงลักหลังบ้านหลังโดนฝน 2-3 มื้อขึ้นงามเป็นดง


แกงหัวปลีผักชะอม
เตรียมผักและเครื่องปรุง มีหัวปลี 3 หัวเล็ก ผักชะอม 1 กำ ใบแมงลัก 1 กำ เห็ดอะไรก็ได้ 1 ถ้วย พริกชี้ฟ้าแดง 2-3 เม็ด ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนคาว ตำเองยิ่งดีแต่ถ้ายุ่งยากหาซื้อในตลาดแบบสำเร็จรูปก็ได้ ผู้เขียนก็ใช้พริกแกงสำเร็จรูปเหมือนกันแต่มาไกลหน่อยจันทบุรีโน่น!…เป็นพริกแกงพิเศษที่เหมาะกับแกงป่า ผัดเผ็ด เขาใส่เครื่องที่จะทำพริกแกงเยอะมาก พอโดนไฟโดนความร้อนจะหอมกระจาย ฉะนั้น จะดับคาวได้เป็นอย่างดี เวลาแกงที ผัดทีกลิ่นฟุ้งไป 7-8 บ้าน ได้ยินเสียงฮัดเช่ยยยย!!… กันอุตลุต (เป็นการทำร้ายร่างกายเพื่อนบ้านทางอ้อม) สิ่งสำคัญต่อมาคือ กะทิสุขภาพที่มีส่วนผสมของนมถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว หรือกะทิที่มีเปอร์เซนต์กะทิน้อย 2 กล่อง หรือจะให้ชีวจิตจริง ๆ ใช้น้ำเต้าหู้ก็ได้ ตามด้วยเครื่องปรุงรสได้แก่ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส เกลือเล็กน้อย
น้ำพริกะปิ ชะอมชุบไข่ ใบตำลึงกรอบ
วันนี้ที่ทำน้ำพริกกะปิเพราะว่าคนข้างบ้านซื้อชะอมมาจากปราจีนเอามาฝากกำใหญ่ห่อใส่ถุงพลาสติกไว้ในตู้เย็นอาทิตย์กว่าแล้ว ปกติไม่ค่อยได้ทำน้ำพริกกะิปิกินเอง เ่ท่าที่จำความได้ไม่น่าจะถึง 3-4 ครั้งเลย เพราะสมัยเด็กๆ ย่าจะทำให้กินแบบไม่ใส่พริกสำหรับเด็กโดยเฉพาะ พอโตมาคนข้างบ้านเป็นมือตำน้ำพริกกะปิมักจะมาเอาลูกมะอึกที่บ้านเราปลูกแล้วเขาก็จะทำน้ำพริกกะปิสุดอร่อยมาให้ เวลาเขาตำจะตำเป็นชามอ่างใหญ่มากเพราะคนในทำงานก็ติดใจฝีมือเหมือนกัน พอเราอยู่บ้านเชียงใหม่รับอาหารปิ่นโตเขาทำน้ำพริกกะปิได้อร่อยเหาะ ทั้งน้ำพริกกะปิใส่มะม่วง หรือใส่ไข่เค็ม ว่าแล้วก็น้ำลายไหล หมู่นี้ทำอะไรเป็นกะปิๆ เยอะมากเพราะติดใจกะปิที่ซื้อมามันหอมอร่อยก็เลยเกิดแรงบันดาลใจให้ควักกะปิออกจากกระปุกมาตำกินเองดีกว่า
ตำกระเทียมเยอะหน่อย เมื่อก่อนเคยได้ยินว่าใส่กระเทียมเท่ากับกะปิจะได้ไม่เหม็นคาว ตำพริกขี้หนูสวน เอากะิปิไปปิ้งหรือใส่ไมโครเวฟสักหน่อย ถ้ามีส้มคั้นน้ำส้มใส่แทนน้ำเปล่าจะทำให้ได้กลิ่นหอมอร่อยมาก เสียดายไม่มีมะอึกแล้วก็เลยไม่ได้ใส่ บีบมะนาวไปเกือบ 3 ลูก ใส่น้ำตาลปึกค่อนข้างเยอะ เราปรุงให้รสชาติออกเปรี้ยวนำ ให้มีกลิ่นหอมมะนาวเยอะหน่อย ความเค็มได้จากกะปิไม่ได้เติมน้ำปลาเพิ่ม มีความหวานของน้ำตาลปึก

บุบมะเขือพวงใส่ลงไปด้วย ถ้าชอบมะเขือเปราะก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ก็ได้คะ อ้อ! จริงๆ เขาต้องตำกุ้งแห้งใส่ไปด้วย แต่เราไม่ชอบก็เลยไม่ใส่คะ
เก็บชะอมไว้อาทิตย์กว่ายังไม่เหี่ยวเลย ล้างแล้วใส่กระชอนไว้
ใช้ไข่สองฟอง ที่บ้านชอบใส่แป้งโกกิลงไปด้วยสักนิดนึง เติมน้ำเย็นลงไปคนให้เข้ากันจากนั้นก็ใส่ชะอมลงไป
ทอดชะอมให้เหลืองกรอบ ทอดได้ 2 ชิ้น
ดูชัดๆ กรอบนอกนุ่มใน
เดินไปเด็ดใบตำลึงที่ข้างรั้วเอามาล้างให้สะอาดทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำเล็กน้อยก็ใส่แป้งโกกิเหยาะเกลือหรือซีอิ๊วขาวลงไปจะได้รสเค็มๆ ได้กลิ่นหอมๆ คลุกแป้งให้ทั่วนำไปทอดในน้ำมันจนเหลืองกรอบ
แทนที่จะจิ้มใบตำลึงกรอบด้วยซอสมะเขือเทศ หรือซอสพริก เราเอามาจิ้มกับน้ำพริกกะปิ
ดูชัดๆ กรอบมากๆ ทิ้งไว้หลายชั่วโมงก็ยังกรอบเหมือนเดิม
ชะอมชุบไข่หนานุ่มราดน้ำพริกกะปิ ด้านบนวางใบตำลึงกรอบด้วย กินเล่นๆ ไม่ต้องกินข้าว วันนี้ได้ไฟเบอร์เยอะดี ถ้าเราทอดชะอมให้บางๆ น้ำมันเยอะๆ จะได้ชะอมชุบไข่แบบกรอบๆ เพราะเราใส่แป้งโกกิด้วย เวลาอยู่บ้านเชียงใหม่เวลาทอดยังไม่ทันเสร็จพี่เดียร์ก็มาจกกินจนแทบไม่เหลือแล้ว ทอดกรอบๆ ต้องกินเลย กินเปล่าๆ ไม่ต้องจิ้มอะไรก็อร่อยแล้วคะ

โรตีกะเพราไก่ -ไข่ชะอมทอด
โรตี อาหารที่คนทั่วโลกให้การยอมรับและนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ส่วนในประเทศไทยนั้น นิยมรับประทานโรตีกันมานานหลายชั่วอายุคน โดยการนำเข้ามาของแขก อินเดีย บังกลาเทศ และปากีสถาน ที่เข้ามายึดอาชีพขายโรตีในประเทศไทย


โรตีชะอมทอดหลังจาก ทอดเสร็จ

สำหรับโรตีมีหลากหลายรสชาติตามความชอบของลูกค้า ซึ่งการกินโรตีนั้นสามารถกินได้ทั้งเป็นอาหารหวาน และอาหารคาว แล้วแต่ว่าจะนำไปทำในลักษณะไหน แต่สำหรับคนไทยภาพที่ทุกคนคุ้นเคย คือ การทำโรตีที่เป็นอาหารหวาน โดยการนำโรตีไปทอดให้กรอบ ใส่ไข่ และเติมนมข้นหวาน น้ำตาล นอกจากนี้ มีโรตีกินกับแยมผลไม้ต่างๆ ชอล์กโกแลต และกล้วยหอม เพื่อให้เกิดความหลากหลายในการรับประทานโรตี ในส่วนของโรตีที่เป็นอาหารคาว ที่คนไทยคุ้นเคย โรตีมะตะบะ
ส่วนโรตีที่ทำขายกันในประเทศไทย มีทั้งในร้านอาหาร ตามรถเข็นต่างๆ การพัฒนาสูตรการทำโรตีส่วนใหญ่มักจะเห็นกันเฉพาะในร้านอาหารต่าง แต่ในส่วนของโรตีรถเข็นการพัฒนาสูตรมีให้เห็นกันไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นของรถเข็นโรตี จากการเข้ามาของแขกขายโรตีจากประเทศต่างๆ และจากการที่คนไทยเองมองเห็นว่าโรตีเป็นอาหารที่คนไทยนิยมรับประทานกันมากทำ ให้หันมาทำโรตีขายกันก็มาก
นายยูซุป อาลี เจ้าของสูตรโรตีผัดกระเพราและไข่ชะอม

และด้วยเหตุนี้เอง เพื่อให้รองรับการแข่งขันที่เกิดขึ้น ทำให้เราได้เห็นสูตรโรตีใหม่เกิดขึ้นมากมาย ล่าสุด “นายยูซุป อาลี” (MR.ESOOF ALI) แขกขายโรตี จากประเทศอินเดีย ได้
พัฒนาสูตร “โรตีไก่ผัดกะเพรา” และ “โรตีไข่ทอดชะอม” เป็นการผสมผสานอาหารไทยและโรตีของแขกออกมาได้อย่างลงตัว เป็นที่ถูกปากถูกใจลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้กับโรตีรถเข็น จากโรตีนม เนย ที่ขายแผ่นละ 10 บาท พอเป็นโรตีสูตรใหม่อัพราคาแผ่นละ 25 บาท ถึง 30 บาท
นายยูซุป เล่าว่า ได้พัฒนาสูตรโรตีไก่ผัดกะเพรา และโรตีชะอมทอด มาจากการที่ลูกชาย ซึ่งชื่นชอบการกินชะอมมาก และแม่เป็นคนไทยก็ทำให้กินบ่อยๆ แต่พอมาวันหนึ่ง คิดว่าเราต้องพัฒนาสูตรโรตีใหม่ เพื่อเป็นจุดขายและเรียกลูกค้า และโรตีสามารถทำอะไรได้หลากหลาย จึงได้ทดลองทำโรตีสูตรใหม่ แรกก็ลองนำเสนอแนวคิดนี้ให้ลูกค้าฟังก่อน ลูกค้าบอกว่าลองทำมาดูสิ จะช่วยอุดหนุน จึงตัดสินใจทำ
ส่วนโรตีไก่ผัดกะเพรา เกิดขึ้นมาจาก สังเกตว่าคนไทยชอบกินไก่ผัดกระเพรา โดยดูจากเมนูยอดนิยมของร้านขายอาหารตามสั่ง ส่วนใหญ่คนไทยชอบสังกะเพราไก่ ใครๆ มาก็สั่งกะเพราไก่ คิดว่าคนไทยน่าจะชอบกินกระเพราไก่ และ โดยส่วนตัวตนเองแม้จะเป็นแขกก็ยังชอบสั่งกะเพราไก่กิน เพราะเป็นอาหารที่รับประทานง่าย ทำง่าย ซึ่งพอนำทั้งสองสูตรมาเป็นหนึ่งในเมนูโรตีของเราปรากฎว่า ลูกค้าให้ความสนใจ และมองว่าเป็นของแปลกสั่งกินกัน ยอดขายต่อวันประมาณอย่างละ 10 ชิ้น พอหมดแล้วก็หมดเลยเราจะไม่ทำเพิ่ม

สำหรับโรตีทั้งสองสูตรมีขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแค่นำมาใส่ลงไปในแป้งโรตีที่ทอดเตรียมไว้ซึ่งจะใช้แป้งโรตีสองแผ่น หลังจากนั้น ก็ห่อด้วยโรตี และทอดให้กรอบ พอทอดเสร็จ ตักขึ้น และราดด้วยซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หรือมองยองเนส รับประทานได้เลย กลิ่นและรสชาติของชะอมจะไม่ฉุนมาก รสชาติคล้ายไข่ชะอมทอด แต่อร่อยตรงแป้งโรตีที่กรอบ ส่วนกระเพราไก่ เหมือนกินกระเพราไก่กับโรตีกรอบ

โดยราคาขายโรตีไก่กระเพรา กล่องละ 30 บาท ส่วนโรตีไข่ชะอมราคากล่องละ 25 บาท ลูกค้าค่อนข้างพอใจเพราะกินแล้วอิ่มพอดี เหมือนกับการทานข้าว 1 จาน เพราะการกินแป้งโรตีเหมือนกับการกินข้าว เนื่องจากทำจากแป้งเหมือนกัน
นายยูซุป เล่าว่า ขายโรตีในประเทศไทยมาประมาณเกือบ 20 ปี เดิมทำโรตีขายอยู่ที่อำเภอพระปะแดง จังหวัดสมุทรปราการ แต่มีปัญหาเรื่องครอบครัว ทำให้ต้องย้ายมาทำโรตีขายที่จังหวัดนครปฐมได้ประมาณ 2 ปี โดยจอดขายประจำที่ประปา นครปฐม ตอนอยู่ที่พระประแดง ขายได้วันหนึ่งประมาณ 2,000 บาท ถึง 3,000 บาท แต่พอย้ายมาขายที่นครปฐม คนไม่เยอะมาก วันหนึ่งขายได้ประมาณ 800- 1,000 กว่าบาท ทำให้ต้องพัฒนาสูตรใหม่เพื่อสร้างจุดขายและเรียกลูกค้า
จุดขายของโรตี คือ ตัวเนื้อแป้งจะเหนี่ยวไม่แข็ง โดยจะไม่ทำแป้งค้างคืน จะทำขายแบบวันต่อวัน และใส่ส่วนผสมกันเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าได้กินของที่อร่อยและคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก ส่วนสูตรใหม่ลูกค้าจะมีทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กยังชื่นชอบ โดยเฉพาะไข่ชะอม ทั้งนี้ ในส่วนของโรตีชะอมไข่ กับโรตีไก่ผัดกะเพรา ไม่ได้คาดหวังยอดขาย เพียงนำมาเป็นจุดขายในการเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ให้มารู้จักมากขึ้น

เต้าหู้ผัดชะอมหมูสับค่ะ
ส่วนผสม

1.เต้าหู้เหลือง งานนี้ใช้ 2 ก้อนค่ะ
ชะอม สัก 1 กำก็พอ มีสรรพคุณแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยว แก้ปวดมวน ปวดแสบปวดร้อน ยอดกินแทนผักมากๆ ช่วยระบบขับถ่ายได้ดี นำมาเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร ฯ ที่มาสรรพคุณค่ะ
2.หมูสับ
3.พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ (จะเม็ดเล็กก็ได้ตามชอบค่ะ)
4.กระเทียมทุบ
วิธีทำ

1. ทอดเต้าหู้ก่อนค่ะ ทอดไม่ต้องให้กรอบมากค่ะ เอาแค่พอเหลืองนิดๆๆ ให้เต้าหู้เซ็ตตัว เพื่อให้เวลาผัดจะได้ไม่เละ
2. ตักน้ำมันที่ทอดออกให้เหลือติดกระทะนิดหน่อย ใส่กระเทียมลงไปผัดพอหอม ตามด้วยหมูสับ พริกขี้หนู
3. พอหมูเริ่มสุกก็ใส่ชะอมค่ะ เติมน้ำนิดนึงเดี๋ยวจะแห้งไป
4. ปรุงรสด้วยซิ้วขาว รสดีนิดหน่อย
5. ใส่เต้าหู้ที่ทอดแล้วลงไป คลุก ๆ สัก 2-3 ที ก็ปิดไฟใส่จานได้เลยยยยยยยยค่ะ

แกงส้มชะอมไข่
วิธีทำ
เตรียมเครื่องน้ำพริกแกง
1.พริกแห้งฉีกครึ่งเอาเมล็ดออก แช่น้ำให้นิ่ม บีบให้สะเด็ดน้ำ
2.ปอกเปลือกหอมแดง แล้วผ่าซีกไว้ เวลาตำจะได้ไม่กลิ้งไปกลิ้งมา
3.ปลาทูนึ่ง เอามาทอดให้หอม ๆ แกะเอาแต่เนื้อปลา
4.โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด โดยเอาเกลือใส่ในครกครึ่งช้อนชา ถ้าเป็นเกลือเม็ดได้ยิ่งดีครับ แล้วบีบน้ำออกจากพริกแห้ง ใส่ตามลงไปในครก แล้วก็ ตำ ๆๆๆๆๆๆๆ ให้พริกละเอียด ตามด้วยหอมแดง ตำๆๆๆๆๆๆ ต่อไปให้ละเอียดเช่นกัน ใส่กะปิลงไปใช้สากกระเบือ บด ๆ ๆๆๆๆๆ ให้เข้ากัน สุดท้าย ใส่เนื้อปลาทูลงไป บด ๆ คลุก ๆ ให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จสำหรับพริกแกงครับ
เตรียมปลาช่อน
5.นำปลาช่อนขอดเกล็ด ขูดเมือก ตัดหาง ครีบและหัว ผ่าท้องควักไส้ออก ล้างให้สะอาด บั่งตัวปลาเป็นช่วง ๆ นำเกลือป่นมาขัดทำความสะอาดและล้างให้เมือกลื่น ๆ เหลือน้อยที่สุด อีกครั้ง พักให้สะเด็ดน้ำนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดให้สุกเหลือง กรอบพอควร
เตรียมชะอมไข่....และผักต่าง ๆ
6. ชะอมไข่ เราก็เด็ด เอ๊ย เรียกว่า รูด ดีกว่า..รูดใบชะอมออกจากกิ่ง เอาแช่น้ำไว้ สักพัก แล้ว สรงขึ้นให้สะเด็ดน้ำครับ
7.ตอกไข่ใส่ชาม 2 ฟอง ตีให้เข้ากัน แล้วเอาชะอมใส่ลงไปคลุก ๆ ให้ทั่ว
8.ตั้งกระทะ ไฟปานกลาง ใส่น้ำมัน รอให้ร้อน เอาไข่กับชะอมที่เตรียมไว้ลงทอด ให้เหลืองสุก แล้วทิ้งไว้ให้หายร้อน เราก็หั่นเป็นชิ้นพอคำ รอไว้ครับ
9.ผักกระเฉด รูดนมขาว ๆ ออกให้หมด เด็ดเฉพาะช่วงอ่อน ๆ เป็นท่อนยาว 1 นิ้ว แช่น้ำหลาย ๆ ครั้ง เอาให้แหนที่ติดมาออกให้หมด ล้างให้สะอาด ส่วนผักอื่น ก็ล้าง แล้วหั่นหรือเด็ดรอไว้
10.วันนี้มีดอกแคใส่ด้วยครับ เราก็แกะกลีบแรกออก แล้วแหวกกลางดอก งัดเกสรออกมาเด็ดทิ้งไป ไม่งั้นจะขมครับ
ลงมือแกง
11.ละลายน้ำพริกแกงกับน้ำเปล่า พอควร ตั้งไฟให้เดือด
12.ใส่กุ้ง รอเดือดอีกครั้ง ใส่ผักอื่น ๆ ยกเว้นผักกระเฉด กับชะอมไข่
13.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำส้มมะขามเปียก น้ำตาลปึก ชิมให้ได้รสชาติที่ถูกใจ
เวลาทาน
เมื่อจะรับประทาน เราก็เอาปลาช้อนทอนวางใส่จาน เรียงผักกระเฉด กับชะอมไข่ทอด แล้วตักน้ำแกงส้มราดตามลงไป น้ำแกงส้มต้องร้อนนะครับ ไม่งั้นผักกระเฉดไม่สุกครับ ผักกระเฉดเราไม่ใส่ลงแกงในหม้อพร้อมผักอื่น เพราะจะทำให้ผักเหนียว ไม่กรอบ ที่สำคัญไม่อร่อยด้วยครับ

แกงส้มปลาทับทิมทอดชะอมไข่
ส่วนผสม

เนื้อปลาทับทิมหั่นเป็นชิ้น 300 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ชะอมเด็ดเอาแต่ใบ 100 กรัม
ดอกแค 50 กรัม
น้ำมันสำหรับทอด
ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม
พริกแห้ง 10 เม็ด
หอมแดงซอย 5 หัว
กระเทียมซอย 5 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
เครื่องปรุงรส
น้ำซุปปลา (หรือน้ำสะอาด) 3 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด โดยใส่พริกแห้ง เกลือป่น โขลกจนละเอียดและตามด้วยกระเทียม หอมแดง กะปิ ตามลำดับ (ก่อนใส่เครื่องแกงอย่างต่อไปต้อโขลกในครกให้ละเอียดก่อน)
2. นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่เนื้อปลาทับทิมทอดจนเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ตักน้ำมันในกระทะขึ้นให้เหลือในกระทะประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นำใบชะอดลงผัดให้หอม ตักขึ้นตีรวมกับไข่ และนำไปทอดเป็นแผ่นจนสุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน นำขึ้นตัดเป็นชิ้นพอคำ
4. นำน้ำซุป(หรือน้ำสะอาด) ตั้งไฟให้เดือด ละลายพริกแกงส้มพอเดือดใส่ดอกแค ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
5. จัดเสริ์ฟ นำปลาทับทิมทอดและชะอมไข่ลงถ้วย ราดด้วยน้ำแกงส้มและดอกแค

ชะอมผัดกุ้ง

ส่วนผสม

ยอดชะอมรูดเอาแต่ยอด 100 กรัม
กุ้งสด 200 กรัม
กระเทียม 5 กลีบ
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 
เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด
วิธีทำ
1. กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลังเอาเส้นดำออก ล้างให้สะอาด
2. ทุบพริกขี้หนูและกระเทียมพอแหลก
3. นำไปผัดกับน้ำมันพอร้อน ใส่กุ้งผัดไฟแรง พอกุ้งสุก ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลทราย เต้าเจี้ยว
4. ใส่ชะมลงผัดเร็วๆพอสุก ตักขึ้นใส่จานเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

งั้นก็มาดูบรรยากาศที่ไร่กันเลยดีกว่า(ภาพช่วงเริ่มต้น)

เมนูอาหารแนะนำ มาดูว่าดอกขจรทำอะไรได้บ้าง