เรื่องเล่าจากสองข้างทาง

     ทุกภารกิจในแต่ละวันและทุกครั้งที่ผมเดินทางผมก็จะมี ''ปีเตอร์แพนจูเนียร์''ลูกชายผมไปด้วยหล่อมั้ยครับ จึงได้เกิดบทความและเรื่องเล่าจากสองข้างทาง อยากจะนำเสนอมุมมองที่ต่างออกไป จะต่างอย่างไรก็ติดตามกันได้เลยครับ

     เส้นทางที่ 1    
     จากภารกิจในแต่ละวันทำให้ผมพบเจอเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้ผมสามารถอมยิ้ม หรือบางครั้งยิ้มแบบกว้างๆโดยไม่อายใครเลยก็มี สดๆร้อนๆเมื่อวานเย็นหลังกลับจากส่งผักที่ตามรายทางถนนมิตรภาพขาออกจากจังหวัดหนองคายสู่อุดรฯผมมองเห็นชายคนนึงเขาเดินไปซื้อข้าวโพดคั่วถุงนึง รสชาด ขนาดถุง ราคา นั่นไม่ใช่สาระสำคัญแต่หลังจากที่ชายคนนั้นเดินออกจากร้านแล้วก็เข้าห้องน้ำในปั้มน้ำมัน (ชายคนนั้นถ้ามองครั้งแรกจะรู้ได้เลยว่าเขาต้องทำงานก่อสร้างแน่นอน เพราะชุดที่เขาใส่ยังเปื้อนเศษปูนเศษดิน แต่นั่นยังไม่ใช่สาระสำคัญ) ผมก็เลยเดินไปกะจะซื้อสักถุงพอเดินไปถึงพ่อค้าก็บอกว่านี่ชายคนนั้นเขาจะซื้อไปฝากลูกสาวของเขา หลังจากที่ชายคนนั้นเดินออกจากห้องน้ำ ถุงข้าวโพดคั่วยังอยู่แล้วเขาก็เดินไปขับรถมอเตอร์ไซด์
หน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของเขา เวลามองผมแอบรู้สึกได้ว่าเขากำลังรอคอยจะเจอใครที่เขารักมากๆอยู่ จากนั้นเขาก็ขับรถออกไปส่วนผมพอซื้อเสร็จก็ไปซื้อของในเซเว่นต่อ หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน สิ่งที่ตอกย้ำให้ผมมีความสุขกับภาพที่ได้เห็นอีกครั้งคือชายคนนั้นเขาร้องเพลงอย่างมีความสุขและมืออีกด้านเขาจับถุงข้าวโพดคั่วที่คล้องไว้กับกระจกรถมอเตอร์ไซค์ ภาพที่เห็นทำให้ผมอมยิ้มได้อีกครั้งวันนั้นผมมีกล้องถ่ายรูปครับแต่ดูจากเข็มไมล์รถวิ่งอยู่ที่ 60 KM/Hr ผมก็เลยไม่เสี่ยง

เรื่องเล็กๆของใครบางคนที่เราไม่รู้จักเขา เราก็สามารถมีความสุขกับสิ่งที่เขาทำได้
ปีเตอร์แพน ณ ไร่ตามฝัน 10/06/2554
     
     เส้นทางที่ 2
     เมื่อช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมได้มีโอกาสเดินทางไปกรุงเทพฯระหว่างที่เดินทางกลับก็ได้เข้าไปทานข้าวเช้าที่ร้านอาหารบ้านสวน2โดยปกติตอนที่ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯเวลาที่ผมมาทำงานและดูโครงการในแถบอยุธยา สระบุรี ลพบุรี ผมก็จะแวะมาทานข้าวที่นี่แต่ร้านที่ผมทานประจำคือร้านบ้านสวน 1แต่ก็ไม่ไกลกันนักอยู่ขาออกจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าสระบุรี ผมชอบอย่างนึงคือมีอาหารให้เลือกมากมาย แต่ตัวชูโรงทุกครั้งที่ผมไปต้องสั่งคือ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับซดแล้วคล่องคอดีมากทีเดียว ใครมีโอกาสไปกรุงเทพอยู่รอยต่อระหว่างอำเภอวังน้อย จ.อยุธยากับอำเภอหนองแค จ.สระบุรี แต่ที่ต้องเล่าให้ฟังเรื่องอาหารไม่ใช่ประเด็นแต่ประเด็นมันอยู่ที่ภาพข้างล่างมันทำให้ผมต้องหยิบกล้องออกมาทั้งที่รีบมากๆกล้องยังไม่ได้ปรับเลยภาพทีได้ก็เลยอย่างที่เห็น แต่ไม่เป็นไรดูที่ข้อความที่ผมอยากสื่อ ผมเอามาเล่าให้ฟังผมเห็นแล้วรู้สึกอยากแบ่งปัน
ถ้าใครมองไม่ชัดงั้นตามนี้นะครับ ''ใช้ชีวิตให้เสมือนว่าพรุ่งนี้ท่านจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เรียนรู้ให้เสมือนว่าท่านจะอยู่ในโลกนี้ตลอดไป ไม่มีวันสิ้นสุด'' ข้อคิดจากท่าน มหาตะมะ คานธี
     ผมชื่นชมกับข้อความนี้มากและทุกวันนี้ผมก็ยึดถือเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เราจะอยู่บนหัวโขนใดๆก็แล้วแต่ จะเป็นผู้นำประเทศ ทหาร ตำรวจ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า แม่ขาย ชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา กรรมกร จับกัง พ่อ แม่ ลูก หลาน หรือ ประชาชนทั่วไป ถ้าเรารู้หน้าที่ของตัวเองและทำมันให้ดีที่สุดเสมือนว่ามันเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ทำ ผลลัพท์ออกมาอย่างไรเราก็จะได้ไม่เสียใจเพราะเราได้ทำดีที่สุดแล้ว ทุกอย่างในโลกนี้เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เทคโนโลยีใหม่เข้ามา วัฒนธรรมที่ต่างออกไป สภาพอากาศ โรคภัยไข้เจ็บ ความกดดันจากสังคมรอบข้าง สิ่งที่เราจะอยู่ได้อย่างมีความสุขก็คือการปรับตัวและรู้จักใช้ชีวิต
ปีเตอร์แพน ณ ไร่ตามฝัน 10/06/2554
    
     เส้นทางที่ 3
     วันนี้ไปขายกล้วยหอมหมู่บ้านหนึ่ง ในเขตอำเภอเมืองหนองคายก็มีเรื่องแปลกๆและก็น่าทำให้ได้อมยิ้มกันอีกแล้ว วันนี้ผมฟ้องด้วยภาพครับ ไม่งั้นคงเข้าถึงอัตถรสได้ยาก เริ่มเลยล่ะกันช่วงขับรถกลับบ้าน ซึ่งวันนั้นก็ขายไม่ค่อยดีเท่าไร่เจอตลาดนัด พร้อมกันชาวบ้านบอกว่าชาวบ้านแถวๆบนภูเขาเอากล้วยมาขายเยอะเลย แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงขายกล้วยหรอกครับ แต่อยู่ต่อไปนี้ระหว่างทางผมแอบสังเกตเห็นว่ามีอะไรผลุบๆโผล่ๆในตะกร้าหลังรถของชาวบ้านตอนแรกผมมองเห็นเป็นเด็กตัวเล็กๆแต่พอเหลือบไปมองอีกทีเด็กน้อยหายไปแต่มีน้องหมามาแทนเอาคิดในใจว่าสงสัยเหนื่อยอาจจะตาลาย สักพักขับไปไกล้ชะโงกหัวดูสิ่งที่พบคือตามรูปภาพข้างล่างครับอย่างฮา


นี่ก็เป็นอีกหนึ่งของเรื่องราวจากสองข้างทาง แค่นี้ผมก็ยิ้มได้แล้ว มองอะไรให้มีความสุขได้ง่ายๆนะครับ
ปีเตอร์แพน ณ ไร่ตามฝัน 21/06/2554   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมนูอาหารแนะนำ ชะอมก็ทำได้หลายอย่างน่ากินทั้งนั้น

งั้นก็มาดูบรรยากาศที่ไร่กันเลยดีกว่า(ภาพช่วงเริ่มต้น)

เมนูอาหารแนะนำ มาดูว่าดอกขจรทำอะไรได้บ้าง