สมเพชร วงศ์ภูมี เกษตรกร ป.4 ผู้เดินตามรอยพ่อหลวง



     ผมได้รู้จัก ผู้ชายที่ชื่อ สมเพชร วงศ์ภูมี มานานพอสมควรประมาณเกือบๆ 6 ปี ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่บ้าน เมื่อปี พ.ศ. 2553 แต่ผมรู้จักในนามของ พ่อเพชร ผมไม่ได้รู้รายละเอียดของแกมากนัก แต่สิ่งที่ผมได้รู้จากคนรอบข้าง คืออย่าเข้าไปนะ เขาเป็นคนตระหนี่ เป็นคนที่แปลกๆ สิ่งที่รับรู้มาเรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ดีเลย ด้วยตัวผมเองเป็นคนที่ไม่เคยคิดว่าการผูกมิตรเป็นสิ่งที่ยาก และยิ่งเป็นคนที่ชอบในแนวทางเดียวกันแล้วด้วยยิ่งทำให้ผมอยากเข้าไปสนทนาด้วย วันแรกที่ไปแถวบ้านแกผมก็ไปคุยกะญาติซึ่งบ้านของญาติผมก็อยู่รั้วติดกันกับบ้านแก ผมก็พูดคุยกับญาติไปและแอบมองเข้าไปในพื้นที่บ้านของแก เพราะสามารถมองเข้าไปและเห็นได้ชัดเจน จะเห็นผู้ชายคนหนึ่งจับไม้กวาดๆใบไผ่ และมองเห็นใบไผ่ลู่ตามลม การเคลื่อนไหวของใบไผ่มันยิ่งทำให้เร้าความรู้สึกของผมอยากเข้าไปพูดคุย ก็เลยตั้งเป้าหมายว่า พรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับแกให้ได้ วันแรกที่เข้าไปที่บ้านแกก็เป็นเหมือนกับที่ทุกคนบอกเลย แกไม่ค่อยสนใจ และสายตาประดุจหนึ่งว่า เฮ้ย เฮ้ย มาอะไรกันแน่ แต่ผมเองก็ไม่ได้ย่นย่อ เพราะก่อนจะได้เข้ามาก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเจออะไรประมาณนี้อยู่แล้ว ผมก็เดินไปเรื่อยๆแกก็เดินตาม แต่ก็ยังมีท่าทีที่ไม่เป็นมิตรนัก จนผมค่อยๆเล่าว่าผมทำอะไรบ้าง เดินไปจนครบทุกส่วนของสวนแล้ว ผมก็เลยถามว่า ทำไมถึงทำไม่เหมือนเพื่อนบ้านเลย แกตอบผมว่า ทุกวันต้องพัฒนา และต้องเข้าใจสภาพแวดล้อมของเรา ลดต้นทุน อยู่ร่วมกับธรรมชาติ แนวทางวิธีการมันช่างคุ้นเหลือเกิน นี่มันเป็นแนวทางมาจากพ่อหลวง ผมก็เลยยิ่งสงสัย ทำไมเกษตรกรชาวบ้านป่า(ที่จบแค่ ป.4 ผมเพิ่งมารู้วันที่ไปถ่ายวีดีโอ) ถึงได้เข้าใจถึงปรัชญาของพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.9 ได้มากมายกว่าชาวบ้านตามชนบททั่วไป จากนั้นผมก็ไปมาหาสู่และได้มีโอกาสเชิญแกมาดูที่ไร่ตามฝัน ก็ยิ่งทำให้กำแพงที่แกมีก็ลดน้อยถอยลง จากนั้นพอผมไปบ้านแกอีกครั้งแกก็เอาของฝากให้เป็นพันธุ์ไผ่หม่าจูมา 10 ต้น ซึ่งก่อนกลับบ้านผมได้แวะบ้านญาติ และญาติถามผมว่าซื้อมาต้นล่ะเท่าไร ผมบอกได้มาฟรี อีกไม่กี่วินาทีถัดมา ผมก็เห็นสีหน้าญาติผมตกใจมาก หลังจากที่ผมบอกว่าแกให้มาฟรี ญาติก็คะยั้นคะยอถามว่าจริงหรอ ถามผมอยู่สองสามรอบ จนผมต้องยืนยันอีกครั้งว่าแกให้มาฟรีและเอาไปพัฒนานะ จะมาวันไหนมาได้ตลอดเลย ยินดีต้อนรับ จากความรู้สึกที่ไม่ดีตั้งแต่ตอนแรก มันช่างน่าเหลือเชื่อวันนี้มันทำให้หัวใจผมพองโตขึ้นมาเพราะของฝากซึ่งไม่มีราคานี้ หลังจากนั้นผมก็เอากลับมาปลูกที่สวนและพัฒนามาเรื่อยๆ และไปมาหาสู่กันตลอด
     พอยุค Social Network ฮิตกันขึ้นมามาก ผมก็เลยอดที่จะนำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจไม่ได้ คำพูดหลายคำพูดในวีดีโอผมได้ตัดออกและภาพหลายภาพที่ผมไม่ได้นำเสนอ เพราะผมเองยังทำวีดีโอได้ไม่เก่ง
     สิ่งที่เป็นสาระสำคัญ คือ ผมขอยกย่องแนวทางการปฏิบัติและการยึดถือตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 และมากไปกว่านั้น ตอนนี้พ่อได้เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้นะครับ หากมีเวลาว่างสามารถมาเรียนรู้ได้ครับ พ่อชื่อ สมเพชร วงศ์ภูมี เลขที่ 38 บ้านดงนาคำ ตำบลหนองนาง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์การเรียนรู้ประจำอำเภอท่าบ่อครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมนูอาหารแนะนำ ชะอมก็ทำได้หลายอย่างน่ากินทั้งนั้น

งั้นก็มาดูบรรยากาศที่ไร่กันเลยดีกว่า(ภาพช่วงเริ่มต้น)

เมนูอาหารแนะนำ มาดูว่าดอกขจรทำอะไรได้บ้าง